– เครื่องลดความชื้นแบบใช้คอมเพรสเซอร์กำจัดความชื้นออกจากอากาศ เหมาะสมกับการใช้งานห้อง LAB ทดลอง ห้องทดสอบ ห้องวิจัย คลังยา คลังเมล็ดพันธุ์พืช คลังวัตถุดิบ ห้องเครื่องมือไลน์ผลิตทั่วไปที่มีพื้นที่ของห้องไม่มาก และมีสภาพแวดล้อมที่ใช้เครื่องปรับอากาศทั่วไป มีอุณหภูมิ 20องศาเซลเซียสขึ้นไป
– เครื่องลดความชื้นแบบเดสิคแคนท์ Desiccant ใช้วงล้อดูดซับความชื้นออกจากอากาศ เหมาะสมกับการใช้งานห้องเก็บวัตถุดิบ ไลน์ผลิตทั่วไปที่ต้องการควบคุมความชื้นให้ต่ำที่สภาพแวดล้อมอุณหภูมิต่ำกว่า 20องศาเซลเซียสขึ้นไป
ในการทำงานปกติเครื่องลดความชื้นมีเซนเซอร์วัดความชื้น เครื่องจะทำงานอัตโนมัติเมื่อมีค่าความชื้นสูงกว่าระดับความชื้นที่ต้องการควบคุม และพักการทำงานเมื่อลดความชื้นได้ค่าที่ต้องการแล้ว
การใช้งานให้ได้ผลต้องเป็นพื้นที่ห้องปิด เพราะหากมีช่องเปิดให้อากาศชื้นเข้ามาเพิ่มในห้องตลอดเวลา แม้เครื่องลดความชื้นทำงานตลอดเวลาก็อาจไม่สามารถลดความชื้นได้ และการเลือกเครื่องลดความชื้นที่มีขนาดเล็กเกินไปก็อาจลดความชื้นไม่ได้เช่นกัน
เครื่องลดความชื้นโมเดิร์นคูลมีราคาตั้งแต่หมื่นกว่าบาทขึ้นไป เครื่องได้รับการออกแบบให้มีอายุการใช้งานกว่า 5-10 ปี หากมีการใช้งานตามคำแนะนำ ทำความสะอาดฟิลเตอร์สม่ำเสมอ และสภาพอากาศในห้องสะอาดไม่มีฝุ่นและสารเคมีที่จะกัดกร่อนส่วนประกอบของเครื่องได้
– เครื่องลดความชื้นแบบใช้คอมเพรสเซอร์จะกำจัดความชื้นออกจากอากาศโดยเครื่องลดความชื้นจะกำจัดออกมาเป็นน้ำทิ้ง ดังนั้นห้องที่ติดตั้งเครื่องลดความชื้นจะต้องมีจุดที่ระบายน้ำทิ้งได้ หรือจะต้องมีเจ้าหน้าที่ทิ้งน้ำจากถังน้ำทิ้งเมื่อน้ำเต็มถัง
– เครื่องลดความชื้นแบบใช้คอมเพรสเซอร์จะใช้ไฟฟ้าโดยเสียบปลั๊กเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยคอมเพรสเซอร์เป็นส่วนที่บริโภคไฟฟ้ามากที่สุด ดังนั้นจุดที่เลือกไว้สำหรับเสียบปลั๊กเครื่องลดความชื้นจะต้องมีไฟฟ้าเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปลั๊กนั้นมีการพ่วงใช้งานของอุปกรณ์อื่นอันจะทำให้ปลั๊กเกิด Overloadได้
– เครื่องลดความชื้นแบบใช้คอมเพรสเซอร์จะมีเสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลมคล้ายกับเครื่องปรับอากาศ
– เครื่องลดความชื้นแบบเดสิคแคนท์ Desiccant จะต้องได้รับการคำนวณอย่างละเอียดจากพารามิเตอร์ที่กำหนดโดยผู้ผลิต เพราะเครื่องลดความชื้นประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีส่วนประกอบที่ซับซ้อนกว่าเครื่องลดความชื้นแบบใช้คอมเพรสเซอร์